โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนภูมิพล

“เขื่อนภูมิพล” เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของประเทศไทย และเป็นเขื่อนแรกในประวัติศาสตร์ไทยอันเป็นจุดกำเนิดของการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยถือกำเนิดขึ้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลในขณะนั้นมีแนวคิดที่จะสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ซึ่งสามารถนำไฟฟ้าเข้าสู่ระบบได้อย่างรวดเร็ว จึงมีการจัดตั้ง “คณะกรรมการพิจารณาสร้างโรงไฟฟ้าทั่วราชอาณาจักร” เพื่อสำรวจพื้นที่สร้างโรงไฟฟ้าทั่วประเทศ  ซึ่งพบว่าในลำน้ำปิง บริเวณหุบเขาย่านรีหรือยันฮี อ.สามเงา จ.ตาก มีความเหมาะสมต่อการสร้างเขื่อนเป็นอย่างยิ่ง จึงนำมาสู่การสำรวจ “เขื่อนยันฮี” ในปี พ.ศ. 2496 และเริ่มสร้างในปี พ.ศ. 2500 – 2507 และในปีเดียวกันนี้เอง ก็มีการตั้ง “การไฟฟ้ายันฮี” (กฟย.) เพื่อรับผิดชอบการสร้างเขื่อน และผลิตไฟฟ้าให้กับภาคกลางและภาคเหนือ

จากการติดตั้งระบบสูบกลับในเครื่องที่ 8 ของเขื่อนภูมิพล ส่งผลให้ต้องสร้างเขื่อนแม่ปิงตอนล่าง ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดเล็ก สร้างปิดกั้นลำน้ำปิง อยู่ห่างจากเขื่อนภูมิพลลงมาทางท้ายน้ำ 5 กิโลเมตร ดำเนินการก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2534 เพื่อใช้อ่างเก็บน้ำเป็นอ่างล่าง ถูกออกแบบให้มีบานประตูระบายน้ำเปิดปิด เพื่อใช้กักเก็บน้ำแล้วสูบกลับไปใช้ผลิตไฟฟ้าอีกครั้ง ก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2538 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อน เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2538 สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบได้ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2539

ลักษณะเขิ่อน

ลักษณะเขื่อนคอนกรีต
ความสูงจากฐานราก154 เมตร
ความยาวสันเขื่อน486 เมตร
ความกว้างสันเขื่อน6 เมตร
ความจุอ่างเก็บน้ำ13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร
ลักษณะเฉพาะเขื่อนภูมิพลเป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งเพียงแห่งเดียวของประเทศไทย
จัดเป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งที่ใหญ่และสูงสุดในเอเชียอาคเนย์ และใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลก

ลักษณะโรงไฟฟ้า

ลักษณะโรงไฟฟ้าอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
จำนวนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า8 เครื่อง
เครื่องที่ 1-6 กำลังผลิตเครื่องละ82.20 เมกะวัตต์
เครื่องที่ 7115 เมกะวัตต์
เครื่องที่ 8 (ระบบสูบกลับ)171 เมกะวัตต์
รวมกำลังผลิตตามสัญญา779.20 เมกะวัตต์
ผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ปีละประมาณ1,062 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง